เพื่อความสุขของในหลวง มาสอบทดสอบธรรมในตนกันเถอะ
โพสโดย webmaster เมื่อ November 25 2010 23:36:00
เพื่อความสุขของในหลวง
มาสอบทดสอบธรรมในตนกันเถอะ

โดย
พระพจนารถ ปภาโส
รองหัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง


เมื่อเวลา ๑๗.๔๐ น. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ ทักทายพสกนิกรที่มารอเฝ้ารับเสด็จ ระหว่างเสด็จฯ พร้อมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช มายังท่าน้ำศิริราช เพื่อทอดพระเนตรการแสดงดนตรีมิวสิก ครูส ตามแบบฉบับของนิวออร์ลีนส์ แจ๊ส ที่จัดแสดงบนเรืออังสนา ลอยลำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งในงานกาลาดินเนอร์ โครงการเพลงพระราชนิพนธ์ ในรูปแบบนิวออร์ลีนส์ แจ๊ส เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา

ภาพข่าวที่เผยแผ่ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในคืนวันนั้น ได้สร้างความเกษมสันต์ในดวงใจของพสกนิกรทุกคน แม้เพื่อนพี่น้องชาวไทยที่กำลังประสบทุกข์ภัยจากน้ำท่วม ก็ผ่อนคลายความทุกข์ได้ในระดับหนึ่ง น้ำพระราชหฤทัยที่แผ่ปกเกล้าปกเกศมหาชนที่กำลังทุกข์ทรมารจากอุทกภัยทั่วแผ่นดินในครานี้ ย่อมเป็นสายสัมพันธ์ที่ผูกพันใกล้ชิดระหว่างพระองค์กับมหาชนชาวไทยที่จงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย แม้ในยามที่ทรงพระประชวรประทับที่โรงพยาบาลศิริราชมาจนครบ ๑ ปี พระองค์มิเคยลืมทุกข์สุขทวยราษฎร์เลย

ได้เห็นพระพักตร์ที่แจ่มใส แม้จะอบอุ่นใจมากเพียงใด ก็ไม่วายรำลึกถึงความทุกข์ใน พระราชหฤทัยที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยในทุกขณะ ที่ประสบความเดือดร้อนจากอุบัติภัยต่างๆ น้ำท่วมครานี้ความสูญเสียอาจมีมากมายเกินประมาณ แต่สิ่งที่ไม่เสื่อมคลายไปจากใจคนไทยทุกคนคือพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัยในทันที นี่ละคือความจริงที่คนไทยทุกคนรับรู้มาตลอดรัชสมัย

คณะสงฆ์ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณเสมอมา จึงได้โดยเสด็จพระราชกุศลตามกำลังความสามารถเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ สรรพกำลังทรัพย์สิ่งของได้ถูกระดมส่งผ่านไปยังพี่น้องที่ได้รับอุทกภัยในทันที นี่ละคือกตัญญูกตเวทีที่พระสงฆ์พร่ำสอนให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักเสมอมา ตามรอยบุรพชนไทยที่ได้สร้างกตัญญูกตเวทิตาธรรมให้เป็นจิตวิญญาณแห่งความเป็นไทย

ความทุกข์ระทมในยามประสบภัยได้อาศัยความกรุณาจากเพื่อนพี่น้องร่วมชาติช่วยบรรเทา ก็ผ่อนคลายเป็นความสุขได้ตามอัตภาพ แม้จะมีคนดีหลายคนที่สละชีวิตไปกับสายน้ำที่หลั่งไหลมา แต่เชื่อว่าความตายเหล่านั้น ล้วนเกิดจากความปรารถนาที่อยากจะช่วยบรรเทาความทุกข์ของเพื่อนร่วมถิ่นเป็นหลัก ต้องขอสรรเสริญในคุณธรรมแห่งวีรชนผู้สละชีพในครานี้

ตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับรักษาพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยทรงมุ่งพระราชหฤทัยที่จะฟื้นฟูพระสุขภาพให้มีความเข้มแข็ง เพื่อที่จะได้แผ่พระบรมโพธิสมภารให้ชาวไทยได้มีความอบอุ่นใจในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิดที่เห็นแก่ตัวของแต่ละฝ่าย อันนำมาซึ่งหายนะของชาติไทย ที่บรรพชนเสียสละชีวิตปกป้องรักษาให้ดำรงคงอยู่สืบมาจนถึงปัจจุบัน

คิดตามประสาชาวบ้าน ในฐานะพ่อ ผู้นำครอบครัว จะมีความสุขได้อย่างไร ? ถ้าลูกมัวแต่ห่วงใยผลประโยชน์ของตน ด้วยการมุ่งทำลายผู้อื่นเพื่อให้ตนเองสมหวัง ไม่มีพ่อคนไหนที่จะทนเห็นลูกเลว ๒ คน ทำลายครอบครัวได้ พ่อที่อยู่ในวัยชราจะมีความทุกข์ระทมใจเพียงไหน คิดว่า ความทุกข์ระทมในพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็คงมีมากกว่านั้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณ เพราะพระองค์ทรงเป็นพ่อแห่งแผ่นดิน ทรงเป็นพ่อที่คนไทยในแผ่นดินต่างกล่าวว่ามีความจงรักภักดีต่อพระองค์

พ่อ....ที่ลูกบอกว่ารัก....แต่ลูกกลับมีการกระทำที่ทำร้ายจิตใจของพ่อ.....ไม่มีความรักใน พี่น้องร่วมครรภ์...ยังทำความปวดร้าวแก่พ่อได้มากฉันใด....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว......คงจะทรงมีความปวดร้าวในพระราชหฤทัยมากกว่านั้นหลายพันเท่า....เพราะลูกของพระองค์คือคนไทยทั้งแผ่นดิน...

สุขใจที่ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ............เคยสำนึกกันบ้างไหมว่า...ความสุขใจที่ตนได้รับจากพระองค์มาตลอดรัชสมัย......พระองค์ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดินน้อยไปหรือเปล่า..........คนไทยจึงไม่มีสำนึกที่จะสนองพระเดชพระคุณของพระองค์เลย.....ความกตัญญูกตเวทีที่ควรแสดงต่อพระองค์ เพื่อให้ทรงเกษมสันต์ในพระราชหฤทัยในพระชนมายุ ๘๓ นี้...สำนึกที่จะทำกันบ้างไหม......อย่าดีแต่พูด.....ทำให้พระองค์ได้เห็นเลย.....จำได้ไหมว่าว่าพระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ตอนหนึ่งที่ว่า “..ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้นจะสำเร็จผลเป็นจริงไปได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วยปัญญา รู้ผิด และด้วยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น..”

คงจะลืมเลือนกันไปแล้วตามประสาคนไทยชอบลืม ตลอด ๑๑ เดือนที่ผ่านมาล้วนแต่ก่อการสร้างเหตุอันนำมาซึ่งความทุกข์ในพระราชหฤทัยไม่น้อยเลย...รู้ไหมว่าทำเช่นไรจึงจะเรียกว่าทำดี ? .... ทำอย่างไรจึงเรียกว่าเป็นการกตัญญูกตเวที ?....... คงคิดกันได้ แต่ทำไมไม่ทำ......ชอบทำกันจังเลย..แบบว่าเอาชาติบ้านเมืองมาทำลายให้สะใจตน....ปล่อยข่าวลือทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์.....สถาบันพระศาสนา.....ที่สุด ความเป็นไทย จะอยู่ได้หรือ...นี่หรือ คนดี... ที่คนไทยตาบอด ใจบอด ยกย่อง...แล้วสิ่งที่เป็นความสุขความสวัสดีตามพระราชประสงค์จะปรากฏได้อย่างไรเล่า

การทำความดี การเป็นคนดี ไม่ต้องไปดูอื่นไกล ให้ดูที่ตนเอง ดูที่ความคิด การกระทำ วาจาของตน ถ้าความคิด การกระทำ วาจา ของตน ไม่มีเบียดเบียนผู้อื่น ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ก็เป็นสิ่งที่คนดีทำ เพราะคนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ย่อมไม่ตกอยู่ในอำนาจของความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่เป็นกิเลสในใจของตน เพียงนี้ก็สามารถยังความสุขความสวัสดีตามพระราชประสงค์จะปรากฏขึ้นได้แล้ว

น้ำเน่า จะถูกทำให้กลายเป็นน้ำดี น้ำสะอาดได้ ต้องใช้น้ำดี น้ำสะอาด จำนวนมากมาย ฉันใด การทำให้คนเลวในประเทศไทย หมดสิ้นไปได้ ก็ต้องทำคนดีให้มีมากกว่าคนเลวเป็นร้อยเท่าพันทวี ควรที่คนไทยทั้งประเทศ มาร่วมใจกัน ทำตนให้เป็นคนดี สร้างสิ่งที่ดี เป็นความเจริญให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ขับไล่คนเลวให้หมดไปหรือน้อยลง ประเทศไทยก็จะวัฒนาสถาพรสืบไปชั่วลูกหลานของเรา

วันศุกร์ ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. คณะสงฆ์ไทยได้จัดการสอบธรรมสนามหลวง (ธรรมศึกษา) แก่นักเรียนทั่วประเทศ จำนวนประมาณ ๒ ล้านคน ใช้สนามสอบ ๔,๐๖๖ สนามสอบ เพื่อทดสอบมาตรฐานแห่งการเรียนธรรมตามหลักสูตรของนักเรียนธรรมศึกษา อันเป็นการสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงแสดงไว้ว่า “เรื่องการศึกษานี้ ขอให้ทราบ ช่วยคิดให้มากๆ จนถึงรากเหง้าของการศึกษาในเมืองไทย อย่าตัดช่องไปแต่การข้างวัด อีกประการหนึ่ง การสอนศาสนาในโรงเรียน ทั้งในกรุงและหัวเมือง จะต้องให้มีขึ้น ให้มีความวิตกไปว่า เด็กชั้นหลังจะห่างเหินศาสนา จนเป็นคนไม่มีธรรมในใจมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น จะถือว่าเหมือนอย่างทุกวันนี้ คนที่ไม่รู้อะไรก็มีมาก ต่อไปภายหน้า ถ้าคนที่ได้เล่าเรียนคงจะประพฤติตัวดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่าเรียนนั้น หาถูกไม่ คนที่ไม่มีธรรมเป็นเครื่องดำเนินตาม คงจะหันไปหาทางทุจริตโดยมาก ถ้ารู้น้อยก็โกงไม่คล่อง ฤาโกงไม่สนิท ถ้ารู้มากก็โกงมากขึ้นและโกงพิสดารมากขึ้น” เพราะเหตุนี้คณะสงฆ์ไทยจึงพยายามจัดการสอนธรรมศึกษาในโรงเรียนให้มากขึ้น แม้จะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมากนัก แต่อาศัยจิตใจที่มุ่งมั่นจะพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญสมตามพระราชปรารภ ท่านก็ขวนขวายสั่งสอนธรรมศึกษาแก่นักเรียนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่พ.ศ.๒๔๗๒ ถึงปัจจุบันนี้ ก็ร่วม ๘๐ ปีแล้ว

จึงขอเจริญพรขอให้พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ได้ตั้งใจทดสอบคุณธรรมของตน ในการดำเนินชีวิต ในหน้าที่การงาน ทำประเทศไทยให้ปราศจากความขัดแย้ง ลดอบายมุข ลดอุบัติเหตุ ลดอาชญากรรม ให้มีค่าเป็นศูนย์ ประสานสามัคคีสร้างความสุขสวัสดีในกับสังคมของตน อันจะประมวลรวมกันเป็นมหาสามัคคีก่อความสุขความสวัสดีตามพระราชปรารภที่ยกมาข้างต้น ข่าวที่เกิดจากความดีเหล่านี้จักสื่อสารถึงพระเนตรพระกรรณใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันจะทำให้พระองค์ทรงมีพระราชหฤทัยที่แจ่มใสสดชื่น สมพระชนมายุ จักอำนวยผลให้พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้หายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว และเสด็จสถิตสถาพรเป็นมิ่งขวัญของคนไทยสืบไป พระราชดำรัสในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ จักเป็นสิ่งที่แสดงให้เราทั้งหลายได้ทราบถึงผลแห่งความดีของเราทั้งหลาย

ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องไทยทุกคน....สอบธรรมในจิตใจของตน....ด้วยการทำความดี..ในวันศุกร์ ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ พร้อมนักเรียนสอบธรรมศึกษาทั่วประเทศ....เหตุนี้จึงกล่าวแต่ต้นว่า เพื่อความสุขของในหลวง มาสอบทดสอบธรรมในตนกันเถอะ แล

๑๕.๑๐ – ๑๖.๒๑ น.
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓